เทรนด์ข้อมูลเชิงลึกปี2020

สรุป Insight ทุก Generation จากรายงานเจาะเทรนด์โลก 2020 โดย TCDC

การตลาดวันละตอนสรุปเนื้อหา Insight ทุก Generation แบบลงลึกจากรายงานเจาะเทรนด์โลก 2020 โดย TCDC ที่จัดทำเป็นประจำทุกปี ในภาพรวมเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เราจะเห็นการขยับไปอีกหนึ่ง Step ของทุก Generation บาง Gen ขยับมาก บาง Gen ขยับน้อย และด้วยการเวลาที่เปลี่ยนไป ก็พาให้เราเห็นมุมมองใหม่ๆของแต่ละเจนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

Insight Baby Boomer อายุ 55-73 ปี

Key Topics – ขุมทรัพย์หลังเกษียณ / อย่างเรียกฉันว่าแก่ / Senior Influencer / ติดแลปท็อป / เลือกดีลที่ดีที่สุด / นักลงทุนหลังเกษียณ / อยากได้รถยนต์ไร้คนขับ เช่น ออกแบบฉลากให้มองเห็นง่ายขึ้น หรือบริการส่งของถึงในบ้าน / เลือกที่จะอยู่บ้านหลังเล็กลง ส่งผลให้ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และสินค้าในบ้านต้องปรับตัวตาม

คนกลุ่มนี้ไม่ชอบให้ใครมองว่าแก่ และไม่ชอบสินค้าที่มีคำว่าลดริ้วรอย แถมยังมีอีกไม่น้อยที่เริ่มต้นอาชีพใหม่ๆอย่างการเป็น Influencer จนมีผู้ติดตามเป็นล้าน จนต้องถูกนิยามใหม่ว่า Older is new style ที่ทำให้คนรุ่นใหม่หลงไหลอยากเรียนรู้

เจนนี้มีทั้งเงินทั้งเวลา เรียกได้ว่าจะยังรวยไปอีกนาน ทำให้หลายแบรนด์ใหญ่ปรับตัวเข้าหา Baby Boomer มากขึ้น พวกเขามีความสุนทรีย์ในการเลือกกิน ไม่ได้หมายความว่าจะกินแต่ที่ดีต่อสุขภาพ แต่จะเลือกกินที่ดีต่อใจมากกว่า แถมพวกเขายังชอบเที่ยวแบบไม่มั่ว คือต้องมีคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คติดตัวไปด้วยเวลาเที่ยว เพื่ออยากรู้อะไรจะได้หาข้อมูลได้ง่ายๆ แถมยังเลือกแต่ดีลที่ดีที่สุดเท่านั้น ไม่ได้จ่ายทิ้งจ่ายขว้างอะไรก็ได้

น่าแปลกที่ Gen นี้มักถูกมองข้ามจากบริษัท Startup และเทคโนโลยี ทั้งที่ความจริงแล้ว Baby Boomer นี่แหละที่ต้องการบริการทางการเงินมากกว่าคนทุก Gen ก็เพราะพวกเขาไม่มีแรงจะหาเงินใหม่แล้ว ทำอย่างไรถึงจะใช้เงินที่มีให้สุขไปจนวันสุดท้ายของชีวิตให้ได้ครับ

และอีกหนึ่งเทคโนโลยีสำคัญที่ Baby Boomer จะหลงรักมาก นั่นก็คือรถยนต์ที่ขับเคลื่อนเองได้ครับ เพราะลองคิดดูซิว่าสภาพร่างกายไม่เหมือนคนหนุ่มสาว แค่ขึ้นรถแล้วบอกจุดหมายปลายทางได้ คิดหรอว่าพวกเขาจะไม่อยากได้เป็นของตัวเองซักคัน

และธุรกิจต้องปรับตัวตาม Baby Boomer ให้ทัน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบร้านให้สะดวกสบายกับพวกเขา รวมถึงการออกแบบสินค้าหรือฉลากให้อ่านง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงบริการส่งถึงประตูบ้านอาจไม่พอ แต่อาจต้องเอาไปวางในบ้านให้ Baby Boomer ด้วย

บ้านของ Baby Boomer ก็มีขนาดเล็กลง เพราะพอเริ่มแก่ตัวลงก็รู้สึกว่าบ้านใหญ่เกินไปดูแลไม่ไหว ทำให้เกิดธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไม่น้อย รวมถึงธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และสินค้าในบ้านที่ต้องปรับตัวตามให้ทัน 

ดังนั้นสรุปได้ว่า Baby Boomer ในวันนี้ยังคงส่งผลต่อเศรษฐกิจและสังคมทุกระดับไปอีกอย่างน้อยก็ 10 ปีครับ นี่เป็นตลาดกลุ่มใหญ่ที่ยังมีโอกาสให้ธุรกิจเข้ามาเก็บเกี่ยวกำไรอีกมากมาย ใครเข้าใจ Baby Boomer มากกว่า ก็ลอยลำไปได้อีกหลายสิบปีสบายๆ

Insight GEN X อายุ 44-54 ปี

Key Topics – เจนกลางระหว่างเจน / รักที่จะเรียนรู้เอง / บ้านคือหน้าตาทางสังคม / จ่ายหนักกว่าทุก Gen / ชอบกินนอกบ้าน / อ่านรีวิวทุกครั้งก่อนตัดสินใจ / คิดเผื่อเพื่อทุก Gen / ทักษะการวางแผนเพื่อจัดการเวลาขั้นเทพ / อยู่ในจุดสูงสุดของชีวิตการทำงาน / ความเท่ห์ในวันนี้มาจากอดีตในวันวาน

GEN X ยังคงเป็นคนกลางระหว่าง 2 หรือ 3 ทั้งพ่อแม่และลูก หรืออาจจะรวมไปถึงหลานสำหรับบางคน แม้ Gen X ทั้งโลกจะมีจำนวนน้อยกว่า Gen อื่นๆ คือมีแค่ 1,400 ล้านคน แต่อย่าลืมว่าด้วยความเป็นคนกลางระหว่างทุกเจน พวกเขานี่แหละเลยใช้เงินสูงสุดยิ่งกว่าทุกเจน

คน Gen X ชอบที่เรียนรู้และทำสิ่งต่างๆด้วยตัวเอง จากนิสัยดั้งเดิมที่ต้องทำอะไรๆเองมาตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้พวกเขาในวันนี้สนุกในการทำสิ่งต่างๆด้วยตัวเองมากขึ้น จากคลิปหรือคอนเทนต์ประเภทสอน DIY ต่างๆมากมายบนโลกออนไลน์

ในขณะเดียวกันความกดดันอันดับต้นๆของ Gen X ก็คือเรื่องบ้าน เพราะบ้านที่สวยคือหน้าตาทางสังคม ดังนั้นบ้านกับ Gen X ยังเป็นตลาดที่ไปได้ดี ผิดกับคนเจนอื่นทั้งหมด และบ้านที่ Gen X จะสนใจก็คือบ้านที่ตอบโจทย์ของทุกเจนรอบตัวเขา เด็กอยู่ได้ ผู้ใหญ่อยู่ดี และก็ต้องมีพื้นที่ส่วนตัวให้เขาด้วย

คน Gen X ชอบออกไปกินข้าวนอกบ้าน จากรายงานบอกว่าโดยเฉลี่ยออกไปกินข้าวนอกบ้านถึงเดือนละ 8 ครั้ง แต่แต่ละครั้งก็ใช้เงินประมาณ 123 เหรียญสหรัฐ หรือเกือบ 4,000 บาทไทย แน่นอนว่ายกกันไปกินทั้งบ้าน จะถูกกว่านี้ได้อย่างไร

แถมเวลาเดินทางไปเที่ยวไหนทีก็ต้องคิดเผื่อคนทั้งบ้าน คน Gen X เลยต้องทำการบ้านด้วยการอ่านรีวิวหนักมาก ถ้ารีวิวไม่ดีก็ไม่ไป หรือถ้าไม่มีรีวิวเลยก็ยิ่งน่าสงสัยยิ่งกว่า

คน Gen X มีเวลาว่างอันน้อยนิด เพราะต้องเอาเวลาไปจัดการทั้งงานและชีวิตของคนทั้งบ้าน ทำให้เวลาว่างอันน้อยนิดนี้ถูกนิยามว่า Me Time เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาทองคำของ Gen X ที่อย่าไปวุ่นวายหรือทำให้เขายุ่งยากขึ้นกว่าเดิมจะดีกว่า ด้วยตารางคิวอันแน่นเอี๊ยดส่งผลให้เกิดธุรกิจใหม่ๆที่ควบรวมกิจกรรมต่างๆเข้าด้วยกัน เช่น Yoga Brunch เพื่อรวมการออกกำลังกาย การเข้าสังคม และการรับประทานอาหารไปพร้อมกัน

Insight Millennial มิลเลนเนียล อายุ 23-38 ปี

Key Topics – สุขนิยม / Indy but Happy / JOMO ที่ไหนก็สุขได้ / นิยามความสุขเฉพาะ Gen ที่ไม่เหมือนใคร / มีบ้านเร็วแต่มีบ้านเล็ก / Co-…space / Pay for Experiences / Share good moment on social / Pay more for experiences / บัตรเครดิตเต็มได้ไม่อาย / Serious Sleep จริงจังเรื่องนอน / Personalized is new Premium / ทำงานที่ไหนก็ได้ / ลงทุนลดโลกร้อน / ดูแลกันและกัน / ถ้าทุกที่เหมือนบ้านได้จะดี / Love to Sharing / Environment is new Exclusive

มิลเลนเนียลหรือ Gen ME ในวันนี้ก้าวข้ามจากวัยรุ่นเข้าสู่ผู้ใหญ่เต็มตัว เป็นกลุ่มสุขนิยม เป็นมนุษย์ JOMO อะไรก็ได้แค่ให้สุขก็พอ คนเจนนี้ซื้อบ้านไวกว่าคนเจนอื่นในช่วงอายุเท่ากัน แต่บ้านของพวกเขาจะมีขนาดเล็กกว่าบ้านของคนเจนอื่นก่อนหน้ามาก เพราะพวกเขายินดีที่จะใช้พื้นที่ร่วมกับคนอื่น เหมือนอย่างที่เราเห็นกันว่าโครงการคอนโดและบ้านจัดสรรใหม่ๆ จะมีพื้นที่ Co-Living Space มากมาย ไม่ว่าจะโซนที่ทำงาน โซนพักผ่อน หรือโซนห้องทำอาหารร่วมกัน

Millennial ยังรักที่จะจ่ายเพื่อประสบการณ์ใหม่ๆ แล้วแชร์ออกไปบนโซเชียลให้โลกรู้ รวมถึงยินดีจ่ายมากขึ้นเพื่อประสบการณ์ที่หาได้ยากยิ่ง เช่นการออกไปดูแสงเหนือที่ไปยากมาก หรือการหาพื้นที่ใหม่ๆบนโลกที่น้อยคนนักจะเข้าถึงได้ และก็ไม่อายถ้าจะใช้บัตรจนเต็มวงเงิน ถ้านั่นหมายถึงการเติมเต็มประสบการณ์เช่นกัน

Millennial ซีเรียสกับเรื่องนอน พวกเขาจะมีทั้งอุปกรณ์และแอปมากมายที่ช่วยให้หลับได้ดีขึ้น นานขึ้น และลึกขึ้น

การช้อปปิ้งของชาวมิลเลนเนียลเองก็ไม่เหมือนคนเจนอื่น เพราะแม้พวกเขาจะรักการช้อปออนไลน์เหมือนกัน แต่พวกเขาก็ต้องการสินค้าที่แตกต่างแบบที่คนอื่นไม่มี หรือทำมาเพื่อเขาคนเดียวเท่านั้น เรียกได้ว่าอะไรที่เป็น Premium และ Personalized รับรองโดนใจ Millennial ไปเต็มๆ

คนเจนนี้ชอบทำงานจากที่บ้าน หรือชอบทำงานจากที่ไหนก็ได้ ส่งผลให้บริษัทใหม่ๆบางที่เริ่มมีนโยบาย Work at Home มากขึ้น หรือจ้างงานประเภทฟรีแลนซ์เพิ่มขึ้นมาก ดังนั้นบ้านของชาว Millennial ก็ต้องออกแบบมาให้เหมาะกับการทำงานเหมือนกัน จะพักผ่อนเพื่อสบายอย่างเดียวก็ไม่ได้ แต่ต้องให้รู้สึกทำงานได้เหมือนมืออาชีพด้วย

ชาวมิลเลนเนียลใส่ใจกับภาวะโลกร้อนมาก คนกลุ่มนี้เป็นคนกลุ่มที่ริเริ่มติดตั้งแผงโซลาร์เซลไม่ใช่เพื่อลดภาระค่าไฟเห็นเหตุผลหลัก แต่เพราะเพื่อโลกและสิ่งแวดล้อมในอนาคตครับ

สรุปได้ว่า Millennial ในวันนี้คิดเพื่อตัวเองโดยเผื่อไปถึงโลก พวกเขาใส่ใจโลกเพราะพวกเขารู้ว่าสุดท้ายทุกสิ่งจะส่งผลมาถึงตัวเองในอนาคต เป็นกลุ่มคนที่สุขนิยมได้อย่างน่าชื่นชมจริงๆ

Insight Generation Z อายุ 4-24 ปี

Key Topics – Genderless / ชอบประหยัดการเดินทางกว่าสังคมเพื่อนบ้านที่ดี / หาเงินเป็นตั้งแต่ยังเด็ก / รักที่จะเรียนรู้ตลอดเวลา / สถานะทางโซเชียลมีเดียคือเรื่องใหญ่ / อยากมั่นใจในตัวเอง / แสดงออกต่อหน้าไม่เก่ง / ไม่กลัวที่จะเผชิญโลกกว้าง / ไม่ต้องการกรอกเพศ / ใส่ใจผิวพรรณความงามเร็วขึ้น / ประชากรกลุ่มใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในอนาคตอันใกล้ / ไม่สนใจดาราดัง แต่ให้ความสำคัญกับคนในกลุ่มที่ตัวเองสนใจ / แยกขยะเพราะรักษ์โลก

คน Gen Z ไม่เปิดกว้างไม่ต้องการกรอบนิยามเรื่องเพศ She และ He ถูกแทนด้วยคำว่า Ze และ Her/ Him/ His/ Their ถูกแทนด้วยคำว่า Hir นั่นหมายความว่าโครงสร้างภาษาที่ใช้กันมานานอาจต้องถูกเขียนขึ้นใหม่จากคนเจนนี้ เพราะคน Gen Z กำลังจะมีมากถึง 4,000 ล้านคนในปี 2020

ทำให้บริการบางอย่างของ Google หรือบางธุรกิจที่ปรับตัวตาม Gen Z ในเรื่องนี้ ให้ลูกค้าที่จะใช้บริการเลือกรอกข้อมูลคำนำหน้าเป็น Mx หรือไม่เลือกคำนำหน้าใดๆเลยก็ได้

คน Gen Z จะเลือกบ้านที่ความสะดวกสบายในการเดินทางมากกว่าคนรุ่นก่อนๆ ที่ให้ความสำคัญกับสังคมสิ่งแวดล้อมเพื่อนบ้านมากกว่า

คนเจนซีซีเรียสเรื่องโซเชียลมีเดียมาก มากเพราะมีหลายแพลตฟอร์มและเช็คโซเชียลมีเดียเกือบทั้งวันยิ่งกว่าคนทุกเจน

คนเจนซีสนใจกิจกรรมประเภทเสริมความมั่นใจในตัวเองมาก เพราะลึกๆแล้วคนเจนนี้เป็นคนขี้เหงา และแสดงออกไม่ค่อยเก่งในชีวิตจริงเท่าไหร่นัก

คน Gen Z ใส่ใจโลกและสิ่งแวดล้อมมากกว่าที่คิด พวกเขาชอบที่จะออกไปสำรวจโลกกว้างในแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการจะซื้อของก็จะเลือกที่เป็นมิตรต่อโลกไปพร้อมกัน

และที่น่าสนใจอีกอย่างคือคนเจนซีนั้นซื้อสินค้าประเภท Skincare เร็วกว่าคนเจนอื่นที่เคยเป็นมา อาจเพราะด้วยการให้ความสำคัญกับ Social media อย่างมาก ทำให้พวกเขาจำเป็นต้องดูดีตลอดเวลาที่จะแชร์อะไรที่ติดตัวเองออกไป

สำหรับธุรกิจที่จะตอบเจนซีได้ดีก็คืออสังหาริมทรัพย์ ที่ต้องตอบโจทย์เรื่องการเดินทางที่สะดวกสบายขั้นสุด ขนาดกลายเป็นเรื่องที่พวกเขาให้ความสำคัญน้อยมาก เล็กได้ถ้าใกล้ที่เรียนหรือที่ทำงานครับ และอย่าลืมว่าพวกเขาสามารถหาเงินได้ตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยเทคโนโลยีและแอปต่างๆมากมาย ทำให้ธุรกิจธนาคารไม่อาจมองข้ามคนเจนซีได้เลย

แถม Gen Z ยังไม่เชื่อคนดังหรือ Influencer ต่างๆเหมือนคนเจนอื่น แต่พวกเขาเชื่อคนที่อยู่ในกลุ่มความสนใจเดียวกับเขา ดังนั้นต่อให้ไม่ดังแต่ถ้าเป็นที่ยอมรับกันในเฉพาะกลุ่ม แน่นอนว่าจะมีอิทธิพลกับเขามาก ก็น่าจะเข้ากับกระแส Micro Influencer ในวันนี้

Insight Generation Alpha อายุแรกเกิดถึง 9 ปี

Key Topics – โตมากับ Tablet / เรียนรู้จาก YouTube / มีพ่อแม่เป็น Millennial Parent ที่เปิดกว้างเรื่องเพศ / ทำให้ Alpha กล้าเป็นตัวของตัวเองเต็มที่ / ใส่ใจเรื่องสุขภาวะตั้งแต่เด็ก / ทำให้เป็นคนช่างเลือกโดยอัตโนมัติ / มี AI เป็นเพื่อน / เคยชินกับ Voice Assistants / คำนิยามไร้เพศ / ปรับตัวเก่งเรียนรู้ไว / โตมาในที่แคบแต่ด้วยเทคโนโลยี ​XR ทำให้กว้างขึ้นได้ / เรียนรู้แบบบูรณาการ / ครูมีหน้าที่ให้ความมั่นใจแทนการให้ความรู้ / Internet of Toys / ธุรกิจของเล่นต้องปรับตัวหนักมาก / พ่อแม่เลือกเสื้อผ้าแบบไม่ระบุเพศให้ลูก / ชอบเลือกเสื้อผ้าแบบ Gender Free มากกว่าระบุเพศชัดๆ

Generation Alpha หรือเด็กที่โตมาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำหน้ารอบตัว ไม่ใช่แค่ Tablet หรือ YouTube แต่ยังโตมากับ AI และระบบการสั่งการด้วยเสียงหรือ Voice Assistants ที่อยากได้อะไรแค่บอก ไม่ต้องกดหรือพิมพ์หาอีกต่อไป

พวกเขาเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองแบบไม่จำกัดกับ YouTube และคุณครูก็ต้องปรับตัวเป็นผู้ให้ความมั่นใจแทนผู้ให้ความรู้แบบยุคก่อน แถมเด็กเจน Alpha ยังเรียนรู้ได้ดีและเรียนรู้ได้เร็วอีกด้วย

บวกกับพ่อแม่ที่เป็น Millennial Parent ที่เปิดกว้างเต็มที่กับลูก โดยเฉพาะในเรื่องเพศ และให้เป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ ทำให้เด็กเจนอัลฟาเลือกที่จะเดินเข้าร้านเสื้อผ้าเด็กที่มีโซน Gender Free มากกว่าโซนระบุเพศอย่างเฉพาะเจาะจง

Gen Alpha จะได้นิสัยการใส่ใจกับอาหารการกินและสุขภาพอย่างมาก เพราะพ่อแม่พวกเขาปลูกฝังนิสัยเหล่านี้มาให้ตั้งแต่เด็ก

และแม้ที่อยู่ของ Gen Alpha จะเล็กเพราะการอาศัยรวมตัวอยู่ในเมือง แต่ความเล็กของพื้นที่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ ด้วยเทคโนโลยี XR หรือ Extended Reality ที่ทำให้เปิดโลกกว้างได้ง่ายขึ้นมาก พร้อมจะเปลี่ยนทุกพื้นที่ให้บ้านให้กลายเป็นสนามเรียนรู้ขนาดใหญ่

และธุรกิจที่จะต้องปรับตัวหนักที่สุดกับกลุ่ม Alpha นั่นก็คือธุรกิจของเล่น การเล่นแบบเดิมๆจะไม่มีอีกต่อไป แต่จะเป็นการเล่นผสมผสานไปกับเทคโนโลยีต่างๆ ส่งผลให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Internet of Toys มามมา อย่างหุ่นยนต์ประจำบ้าน หรืออะไรก็ตามที่สามารถโต้ตอบการสั่งการด้วยเสียงได้